เมืองสงขลาและพัทลุง สองเมืองน่ารักที่ตั้งอยู่ในภาคใต้ของประเทศไทย นับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้านที่เป็นมิตร การสนุกสนานกับอาหารท้องถิ่นอร่อยๆ หรือการสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจ ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทริปล่องใต้ 3 วัน 2 คืนบนเส้นทางสงขลา – พัทลุง ทริปที่หลายคนมองหาและต้องการสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวที่หลากหลายและสนุกสนานจนไม่เสียเรื่อง จากชายหาดสวยๆ ถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นที่น่าทึ่ง เริ่มเดินทางกันเลย!
วันที่ 1: สงขลา – มุกดาหาร
H1: สัมผัสบรรยากาศสงขลา
เมื่อคุณมาถึงสงขลา อย่าพลาดที่จะสัมผัสบรรยากาศเมืองที่ตื่นเต้นและหลากหลายของสงขลา
H2: ชิมอาหารท้องถิ่น
ที่สงขลาคุณสามารถลิ้มรสของอาหารท้องถิ่นที่อร่อยได้ตลอดทั้งวัน ลองที่ร้านอาหารถนนนครนิวยอร์กส์เพื่อลิ้มรสของราตรีที่อร่อยมาก
H3: สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ
สายสงขลาควรไปที่พระมหาธาตุ วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอื่นๆ ในเมือง
H4: ที่พักที่แสนสบาย
เลือกที่พักในสงขลาที่มีความสะดวกสบาย และอาจมีสระว่ายน้ำ ตัวอย่างเช่นโรงแรมปารีสสงขลา
วันที่ 2: มุกดาหาร – พัทลุง
H1: สำรวจเมืองมุกดาหาร
ในวันที่สองของทริปของคุณ คุณจะไปสำรวจเมืองมุกดาหาร ที่นี่คุณสามารถเดินทางด้วยรถยนต์หรือรถบัส และชมวิถีชีวิตของชาวบ้าน
H2: สวนสาธารณะพัทลุง
นำครอบครัวมาพักผ่อนในสวนสาธารณะที่สวยงามและสบายๆ ของพัทลุง
H3: นิทรรศการพิพิธภัณฑ์พัทลุง
สำรวจความสวยงามของพัทลุงผ่านนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์ที่นี่
H4: ที่พักในพัทลุง
ค้นหาที่พักที่น่าสนใจในพัทลุง แนะนำโรงแรมสตาร์เลิฟพัทลุง
วันที่ 3: พัทลุง – กลับสงขลา
H1: สนุกกับกิจกรรมทางน้ำ
วันสุดท้ายของทริป ลองประสบการณ์กิจกรรมทางน้ำที่น่าสนุกที่สุดในพัทลุง
H2: ตลาดน้ำคลองแค
เยี่ยมชมตลาดน้ำคลองแคและสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่น
H3: การเดินทางกลับสงขลา
เริ่มการเดินทางกลับสงขลาและสนุกกับวิวทิวทัศน์รอบๆ ทางเมือง
H4: สรุปทริป
สรุปประสบการณ์ทริปที่น่าจดจำและเตรียมตัวสำหรับการกลับสู่สงขลา
สรุป
ทริปล่องใต้ 3 วัน 2 คืนบนเส้นทางสงขลา – พัทลุง เป็นทริปที่น่าสนใจและหลากหลายมากมาย จากการสัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่นในสงขลา ไปจนถึงการสำรวจพัทลุงที่สวยงาม คุณจะได้รับประสบการณ์ท่องเที่ยวที่สมบูรณ์แบบที่ไม่มีวันจบ ด้วยการรับประทานอาหารอร่อยๆ และการสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นเต้น ที่พักที่มีความสะดวกสบายยิ่งให้คุณกับประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้น
ทริปล่องใต้ 3 วัน 2 คืน บนเส้นทางสงขลา – พัทลุง สองเมืองน่ารักที่ไปพักได้ทั้งปี [VIDEO]
“””ตกหลุมรัก”” คืออาการที่เราใช้ระหว่างคนกับคน แต่วันนี้เราตกหลุมรักสองเมืองน่ารัก “”สงขลา”” “”พัทลุง”” สองเมืองในภาคใต้ที่ไม่ได้มีไฮไลท์ที่น้ำทะเลใสหรือหาดทรายสีขาว แต่ไฮไลท์ของเมืองนี้คือธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ อาหารการกิน และรอยยิ้มของผู้คน ที่ทำให้เราเกิดอาการ Falling In Love หลังจากการเดินทางทริป 3 วัน 2 คืน บนเส้นทางสงขลา พัทลุง
https://www.chillpainai.com/scoop/10685/
ใครที่อยากลองมาตกหลุมรักสองเมืองน่ารักแห่งนี้กันสักครั้ง ก็ลองตามไปชมการเดินทางนี้กันเลย
Day1
…………………………………………
ร้าน Inthanin สาขาทัพธรรมชาติ
ที่ตั้ง : ถ. นิพัทธ์สงเคราะห์ 5 ต. หาดใหญ่ อ. หาดใหญ่ จ.สงขลา
เปิดบริการ : เปิดบริการทุกวันเวลา 7.00 – 19.00 น.
เบอร์ติดต่อ : 094-907-3399
GPS : https://goo.gl/maps/ZWgbTwKMSwC2ZSfc9
ร้านโชคดีแต่เตี้ยม
ที่ตั้ง : โชคดีแต่เตี้ยม 58/25 ซ.ละม้ายสงเคราะห์ 1 สงขลา
เปิดบริการ : ทุกวันเวลา เวลา 6.00-12.00 น. และ 17.00-22.00 น.
เบอร์ติดต่อ : 081-276-6251
GPS : https://goo.gl/maps/7MJ81NrUNYFjESJWA
เคเบิลคาร์
นครหาดใหญ่ เขาคอหงส์ หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
เปิดบริการ : วันอังคาร – วันอาทิตย์เวลา 8.30 – 17.00 น.
ค่าบริการ : ชาวไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท
เด็ก (สูงไม่เกิน 150 ซ.ม.) 50 บาท
เด็กสวมเครื่องแบบนักเรียน/นักศึกษา
และผู้ใหญ่สวมเครื่องแบบข้าราชการ 50 บาท
ชาวต่างชาติ 200 บาท
เบอร์ติดต่อ : 074-200-000
GPS : https://goo.gl/maps/PX17QDz5frR7VJFP8
บ้านในนคร บูติกโฮเต็ล
ถนนนางงาม อ.เมือง จ.สงขลา
ราคา : 1500 บาท
เบอร์ติดต่อ : 095-438-9323
GPS : https://goo.gl/maps/XRPcdavCzv4nDKa68″
เนื้อหาของวิดีโอ ทริปล่องใต้ 3 วัน 2 คืน บนเส้นทางสงขลา – พัทลุง สองเมืองน่ารักที่ไปพักได้ทั้งปี
สงขลาและพัทลุง สองเมืองในภาคใต้ พี่ไม่ได้มีไฮไลท์ที่น้ำทะเลใส แต่ไฮไลท์ ของสองเมืองนี้ ธรรมชาติ ประวัติศาสตร์อาหาร แล้วรอยยิ้ม ที่ทำให้เรา รายการ falling in love ออกเดินทางทริป 3 บนเส้นทาง สงขลา- พัท ใครที่อยากลองมาตกหลุม ของเมืองน่ารัก หนีกันสักครั้ง ก็ลอง ไปชมการเดินทางนี้กันเลยค่ะ เราเลือกเที่ยวบินที่ จากกรุงเทพฯตั้ง สูตรสนามบินหาดใหญ่ เพื่อจะได้มีเวลาเที่ยวให้เยอะที่สุด พอถึงหาดใหญ่ ก็เช่า ขับเข้าเมืองหาดใหญ่ก่อน เลยค่ะ เช้านี้แวะทานอาหารเช้ากันที่ร้านติ่มซำสุดอร่อย Teacher โชคดีแต่เตี้ยม ทั้งขนมจีนฮะ ซาลาเปาไส้หมู ใช้ครีมลาว ราคาเริ่มต้นเข่งละ 20 บาทเท่านั้น ส่วนไฮไลท์ของร้านคือ รสชาติหอมอร่อยมากๆ เดินทางไปเที่ยวต่อยังเคเบิ้ลคาร์นครหาดใหญ่ เคเบิ้ลคาร์ที่แรกและที่เดียวในเมืองไทย ตั้งอยู่บนยอดเขาคอหงส์ ด้านบนจะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมงคลมหาราช พระพุทธรูปประจำเมืองหาดใหญ่ เที่ยวเมืองใหญ่ หาดใหญ่กันไปแล้ว ก็ถึงเวลามุ่งหน้าสู่ สงขลา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที เราก็มา ถึงตัวเมืองเก่าสงขลา ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ คนไม่พลุกพล่านเท่าไหร่ ภายในเมืองเต็มไปด้วย ตึกเก่ามากมาย ที่พักของเราในวันนี้ คือบ้านในนครบูติคโฮเต็ล ที่พักเล็กๆที่มีห้องพักให้เลือก 6 ห้อง แต่ละห้องตกแต่งไม่เหมือนกันเลยค่ะ สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องก็ครบครัน หน่วยห้องพักที่นี่ทุกห้องราคา 1,500 บาทเท่านั้น พร้อมอาหารเช้าสุดอร่อย หลังจากเช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว ก็ไปทาน สกรีนที่ร้านกิ่งกล้วยญวน หรือไอติมยิว เปิดขายมากกว่า 15 ปี ไอศกรีมไข่แข็งหอมมันหวานน้อย ถ้วยเดียวไม่เคยพอค่ะ แดดร่มลมตกก็ถึงเวลาไป จักรยานเที่ยวภายในเมืองเก่า ซึ่งที่นี่มี Street Art กระจายตัวอยู่ บนถนนนาง ถนนนครในและถนนนครนอก สามารถปั่นจักรยาน หาได้เลยค่ะ และอีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์คที่ต้องมาเช็คอิน นั่นก็คือโรงสีแดงหับพ่อหิน อดีตคือโรงสีเก่าแก่ ตั้งอยู่ริมทะเลสา ปัจจุบันโรงสีแดงหาพ่อหินแห่งนี้ เป็นอุทยานการเรียนรู้ บอกเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ บาทของเมืองสงขลาค่ะ ในตอนเย็น เราขับรถ ข้ามสะพานติณสูลานนท์ มุ่งตรงไปยังเกาะยอ เพื่อไปทานอาหารเย็นพร้อมชมวิวพระอาทิตย์ตก แต่ระหว่างนั้นก็ สักการะพระนอนที่วัดแหลมพ้อ ซึ่งวัดจะตั้งอยู่ตรงสะพานติณสูลานนท์ช่วงแรกค่ะ ข้ามสะพานมาปุ๊บก็เตรียมชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าวัดได้เลย มาทานอาหารเย็นสุดอร่อยกันที่ร้านมหัศจรรย์เกาะยอ ร้านอาหารทะเลวิวหลักล้าน ที่ทำสะพานและแพยื่นไปในทะเล สงขลา ทำเลของร้านตั้งอยู่ตรงจุดที่พระอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า พอดิบพอดีเลยค่ะ และยังมีมุมมากมายให้ถ่ายรูปเพียบ ส่วนเมนูที่ห้ามพลาดเมื่อมาเกาะ นั่นก็คือเมนูปลากระพงค่ะ เขาบอกเลยว่าปลากระพงที่นี่ หอยแรงที่สุดในโลกเลยนะ เช้าวันที่ 2 ทานอาหารเช้าที่บ้านในนคร กลับเมนูข้าวต้มไก่ โรตีหวานและผลไม้ หลังจาก Check Out ออกจากบ้านในนครแล้ว เราก็ขอเติมอะไรใส่ท้องกันต่อ กับข้าวสตูของร้านเกียรติก้ามโกยาว ร้านเก่าแก่ที่เปิดให้บริการมากว่า มีเมนูให้เลือกทั้งสตูหมู สตูไก่ เครื่องใน ตัวสตูตุ๋น 3 ชั่วโมงน้ำซุปหอมมากๆค่ะ รถกลม เวลา สะพานคู่กับน้ำจิ้มที่ใส่กระเทียมกับพริก ตอบคำเดียวว่าแรด จุดหมายต่อไปของเราคือเขาตังกวน จุดชมวิวของเรื่องสงขลา ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 105 เมตรค่ะ แต่ไม่ต้องเดินให้เมื่อยนะคะ พร้อมมีบริการลิฟท์ที่พาเราสู่ยอดเขาได้เลย แต่ถ้าใครอยากออกกำลังกายก็มีบันไดให้เดิน ขึ้นไปด้วยค่ะ ก่อนจะโบกมือลาสงขลามุ่งหน้าไปยังพัทลุงเราก็แวะมาแชร์ภาพสวยๆกันที่วงเวียน ตั้งอยู่สุดถนนชลาทัศน์ และ Landmark ที่สุดท้ายของ สงขลา พี่ไม่ได้มาเดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงสงขลา ก็คือนาง ทองริมหาดสมิหลา ที่อยู่ผู้สงขลามากกว่า เดินทางต่อไปยังจังหวัดพัทลุง โดยใช้เส้นทางถนนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ที่เราขอยกให้เป็นถนนสวยที่สุด แห่ง ของประเทศไทยกันเลยทีเดียวค่ะ เพราะมีความยาวถึง 14.1 30 กิโลเมตร ระหว่างทางจะมีจุดให้เราได้จอดถ่ายรูปภาพวิวทิวทัศน์ ทั้งสองข้างทาง พร้อมกับชมสูงพรายน้ำ ที่กำลังนอนแช่น้ำลอยคอเล็มหญ้าสบายใจ ที่พักของเราในค่ำคืนนี้ พื้นที่สีปากประบูติครีสอร์ท ที่พักบรรยากาศ เหมือนหมู่บ้านชาวประมง เน้นใช้วัสดุจากธรรมชาติ ตั้งอยู่ที่บ้านปากประริมทะเลสา ภายในที่พักมีบริการสระน้ำเกลือของรีสอร์ท ให้เราว่ายน้ำพร้อมชม สวยๆยามเย็น ของทะเล ไปด้วยค่ะ อาหารเย็นมื้อนี้ เราเลือกทานที่วิวยอ ฉันเป็นร้านอาหารเจ้าของเดียวกันกับที่พักค่ะ ตั้งอยู่ใกล้ ความดีงาม ของร้านนี้คือวิวทะเล สงขลา พร้อมยอยักษ์มากมายที่เรียงราย อยู่ในทะเล เช้านี้เราตื่นแต่เช้าตรู่ เพื่อไปชมแสงแรกที่ทะเลน้อยค่ะ ร้อยติดต่อเรือทัวร์ทะเลน้อย ได้ที่ล็อบบี้ของที่พัก ท่าเรือลำละ 1,200 บาท เรือจะพาเราไปชมพระอาทิตย์ขึ้น ท่ามกลางยยักษ์มากมาย พร้อมชมวิถีชีวิต ของชาวบ้านปากประ ร้านอาหารเช้าที่ที่พักแล้ว เตรียม check out เดินทางไปยังที่ต่อไปค่ะ ที่เที่ยวสุดท้ายในทริปนี้นั่นก็คือ ที่นี่ไม่ใช่เพียงสถานที่ถ่ายรูปสวยๆ แต่ยังเป็นศูนย์การเรียนรู้วิถีเกษตรชาวนาไทย และวัฒนธรรมพื้นบ้านของภาคใต้ ทั้งหนังตะลุงมโนราห์พร้อมนั่งชิวพักทานกาแฟ แล้วทานอาหารอร่อย ทั้งอาหารพื้นบ้าน และอาหารฮาลาลภายในนาโปแก ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯค่ะ เป็นยังไงกันบ้างครับกับพิกัดดีๆที่เราหยิบมาแนะนำกัน ถูกใจก็อย่าลืมกด Subscribe Channel และติดตามแฟนเพจชูไปไหนไว้ด้วยนะคะ จะได้ไม่พลาดเรื่องราวท่องเที่ยวอัพเดทใหม่จากพวกเรา