10 จุดเช็คอินใกล้กรุงเทพฯ บรรยากาศเหมือนอยู่ภาคเหนือ

กรุงเทพมหานครคือเมืองหลวงแห่งประเทศไทยที่รวมความหลากหลายทางวัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจไว้มากมาย แม้แต่คุณก็อาจมีความอยากไปสัมผัสบรรยากาศของภาคเหนือของประเทศไทยบ้างในบางครั้ง แต่ถ้าคุณไม่สามารถขนถึงภาคเหนือได้ในขณะนี้ ไม่ต้องห่วง! ในกรุงเทพฯ ยังมีสถานที่หลายแห่งที่คุณสามารถเรียกว่า “จุดเช็คอินใกล้กรุงเทพฯ บรรยากาศเหมือนอยู่ภาคเหนือ” ได้อย่างง่ายดาย ต้องบอกเลยว่าการไปเยือนสถานที่เหล่านี้จะทำให้คุณรู้สึกเหมือนกับการอยู่ในภาคเหนือของประเทศไทยจริง ๆ ดังนี้คือ 10 จุดเช็คอินที่คุณควรต้องลอง!

1. สวนรถไฟสีสันต์

แหล่งชิลล์แบบภาคเหนือ

สวนรถไฟสีสันต์เป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงเทพฯ ภายในสวนจะมีรถไฟดัดแปลงให้มีสีสันต์และน่ารักมากมาย ที่นี่คุณสามารถนั่งรถไฟสีสันต์และชมวิวสวย ๆ ของสวนรอบร้าน รวมถึงถ่ายรูปความทรงจำที่น่ารักกับรถไฟสีสันต์ได้เป็นอย่างดี

2. หมู่บ้านบางไทร

บ้านเรือนเล็กเหมือนอยู่ในภาคเหนือ

หมู่บ้านบางไทรคือหมู่บ้านที่สร้างขึ้นในสไตล์เหมือนบ้านเล็กของชาวภาคเหนือ ที่นี่คุณจะพบกับบ้านไม้และคอกคอนกรีตสีขาวที่มีลวดลายศิลปะบนผนัง คุณสามารถเดินเล่นรอบหมู่บ้านและร่วมสัมผัสความเงียบสงบของภาคเหนือได้อย่างแท้จริง

3. สวนพญาไท

สวนแห่งความสงบ

สวนพญาไทเป็นสวนสาธารณะที่อยู่ในตัวเมืองกรุงเทพฯ ที่นี่คุณจะพบกับบรรยากาศที่เงียบสงบและร่มรื่น คุณสามารถเดินเล่นรอบสวน หรือนั่งริมน้ำพักผ่อนใจได้อย่างสบาย ๆ และถ่ายรูปความทรงจำที่สวยงามในสวนนี้

4. วัดสระเกศ

บรรยากาศศาสนาแบบภาคเหนือ

วัดสระเกศเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบภาคเหนือที่งดงาม ที่นี่คุณสามารถชมพระพุทธรูปและโครงสร้างสวย ๆ ที่สร้างขึ้นอย่างศิลปะแบบภาคเหนือได้ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมธรรมะและการนั่งสมาธิในวัดสระเกศเพื่อความสงบใจ

5. หมู่บ้านเปร็ง

บ้านเรือนเล็กแห่งอำเภอ

หมู่บ้านเปร็งเป็นหมู่บ้านที่สร้างขึ้นในสไตล์เหมือนบ้านเล็กของอำเภอในภาคเหนือ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวอำเภอและมีโอกาสลิ้มลองอาหารอำเภอที่อร่อยมาก

6. สวนลุมพินี

สวนแห่งความสงบ

สวนลุมพินีเป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงเทพฯ ที่นี่คุณจะพบกับบรรยากาศที่เงียบสงบและร่มรื่น คุณสามารถเดินเล่นรอบสวน หรือนั่งริมน้ำพักผ่อนใจได้อย่างสบาย ๆ และถ่ายรูปความทรงจำที่สวยงามในสวนนี้

7. หมู่บ้านบางปะอิน

บ้านเรือนเล็กเหมือนอยู่ในภาคเหนือ

หมู่บ้านบางปะอินคือหมู่บ้านที่สร้างขึ้นในสไตล์เหมือนบ้านเล็กของชาวภาคเหนือ ที่นี่คุณจะพบกับบ้านไม้และคอกคอนกรีตสีขาวที่มีลวดลายศิลปะบนผนัง คุณสามารถเดินเล่นรอบหมู่บ้านและร่วมสัมผัสความเงียบสงบของภาคเหนือได้อย่างแท้จริง

8. วัดคาร์ม

บรรยากาศศาสนาแบบภาคเหนือ

วัดคาร์มเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบภาคเหนือที่งดงาม ที่นี่คุณสามารถชมพระพุทธรูปและโครงสร้างสวย ๆ ที่สร้างขึ้นอย่างศิลปะแบบภาคเหนือได้ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมธรรมะและการนั่งสมาธิในวัดคาร์มเพื่อความสงบใจ

9. สวนรัชนก

สวนแห่งความสงบ

สวนรัชนกเป็นสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงเทพฯ ที่นี่คุณจะพบกับบรรยากาศที่เงียบสงบและร่มรื่น คุณสามารถเดินเล่นรอบสวน หรือนั่งริมน้ำพักผ่อนใจได้อย่างสบาย ๆ และถ่ายรูปความทรงจำที่สวยงามในสวนนี้

10. หมู่บ้านเล็กแควน

บ้านเรือนเล็กแห่งอำเภอ

หมู่บ้านเล็กแควนเป็นหมู่บ้านที่สร้างขึ้นในสไตล์เหมือนบ้านเล็กของอำเภอในภาคเหนือ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสวิถีชีวิตของชาวอำเภอและมีโอกาสลิ้มลองอาหารอำเภอที่อร่อยมาก

สรุป

ถึงแม้คุณจะอยู่ในกรุงเทพฯ คุณก็ยังสามารถสัมผัสบรรยากาศของภาคเหนือของประเทศไทยได้อย่างใกล้ชิด ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีบรรยากาศแบบภาคเหนือในกรุงเทพฯ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสวิถีชีวิตและบรรยากาศของภาคเหนืออย่างแท้จริง ไม่ว่าคุณจะเลือกไปเยี่ยมชมสวนรถไฟสีสันต์หรือหมู่บ้านบางไทร คุณจะพบกับความสงบสุขและความสุขที่ไม่เหมือนใครในกรุงเทพฯ

คำถามที่พบบ่อย

1. มีค่าเข้าชมสถานที่เหล่านี้หรือไม่?

ไม่มีค่าเข้าชมสำหรับสถานที่เหล่านี้ ท่านสามารถเข้าชมฟรี

2. สถานที่ใดเหมาะสำหรับครอบครัว?

สถานที่เหล่านี้เหมาะสำหรับครอบครัวทุกคน มีกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับทุกวัย

3. มีร้านอาหารในพื้นที่ใกล้เคียงหรือไม่?

ในบางสถานที่จะมีร้านอาหารใกล้เคียง คุณสามารถสนุกกับอาหารท้องถิ่นที่นี่ได้

4. มีกิจกรรมอะไรที่น่าสนใจในสถานที่เหล่านี้บ้าง?

สถานที่เหล่านี้มีกิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น เดินเล่นในสวนสาธารณะ ชมพระพุทธรูป และลิ้มลองอาหารท้องถิ่น

5. ที่ตั้งของสถานที่เหล่านี้อยู่ที่ใด?

สถานที่เหล่านี้ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร ใกล้กับตัวเมืองและสิ่งอำนวยความสะดวกหลายรูปแบบ

10 จุดเช็คอินใกล้กรุงเทพฯ บรรยากาศเหมือนอยู่ภาคเหนือ [VIDEO]

“อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ที่ตั้ง : ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 400 บาท เด็ก 200 บาท
วันและเวลาเปิด – ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 0860926529 (ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว)
GPS : https://goo.gl/maps/nPg4YAeGHy3po7p36

เจ็ดคต-โป่งก้อนเส้า
พิกัด ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า
ต.ท่ามะปราง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
เวลาในการเข้าออกสถานที่ ด่านเปิด 08.00-20.00 น.
ติดต่อสอบถามหรือจองบ้านพัก
โทร.089-2378659, 085-9683520, 080-0192762
(ในเวลาราชการ 08.30-12.00 น. และ 13.00-16.30 น.)
ค่าบริการกางเต็นท์ : ไม่มี แล้วแต่จะบริจาค

เขาช่องลม ( เขื่อนขุนด่านปราการชล )
ที่ตั้ง : 139 ม. 2 ต.หินตั้ง อ.เมือง จ.นครนายก
เปิดทำการ : 08.00 – 17.00 น.
ค่าล่องเรือ : ค่าเรือ 1-7 คน ราคา 1,500 บาท 8 คนขึ้นไป ราคาคนละ 200 บาท
สามารถโทรสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 0617408034 หรือ 0894931200
GPS : https://goo.gl/maps/THAcsstcf4Gm1BUM9
”

เนื้อหาของวิดีโอ 10 จุดเช็คอินใกล้กรุงเทพฯ บรรยากาศเหมือนอยู่ภาคเหนือ

เอาใจใส่กรีนที่ชอบภูเขาและสีเขียวๆ ชิลไปไหนร่วมจุดเช็คอินที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ อากาศดีเหมือนได้ไปภาคเหนือมาฝาก แต่ละที่ไปไม่ยาก ใช้เวลาขับรถไม่เกิน 4 ชั่วโมงเท่านั้นค่ะ แต่บรรยากาศและความชิวกินขาด บอกเลยว่าห้ามพลาด จะมีที่ไหนบ้างตามไปชมกันเลยค่ะ อย่าเพิ่งบอกว่ามาเที่ยวเขาใหญ่บ่อยจนเบื่อแล้ว ถ้าหากคุณยังไม่เคยมาที่นี่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ผืน สีเขียวขนาดใหญ่ เนื้อที่กว่า 1.35 ล้านไร่ ที่ครอบคลุมอาณาเขตพื้นที่ถึง 4 จังหวัด นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ เคยขับรถมาเที่ยวกันถึงแค่บริเวณที่ทำการอุทยาน หรือจุดชมวิวกม 30 แต่เราอยากบอกว่าเขาใหญ่ยังมีธรรมชาติสวยๆ และน่าทึ่งที่รอให้เราไปเยือนอีกมากมายหลายจุด ทั้งน้ำตกเหวนรก น้ำตกขนาดใหญ่ สามชั้น ที่สูงที่สุดของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ใครเป็นสายผจญภัย แนะนำไปเดินเที่ยว พลาดกันต่อ ที่หอดูสัตว์ ถ้าโชคดีเราอาจยังมีโอกาสได้พบ สัตว์ป่า กวางหมู และกระทิง ที่มักจะลงมากินดินที่โป่งเทียม และกินน้ำที่แหล่งน้ำที่นี่ ก่อนปิดท้ายด้วยการไปชมพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติก ที่อ่างเก็บน้ำสายศร บอกเลยว่ามาเที่ยวเขาใหญ่ และประทับใจฟิน แพรภาคเหนือแน่นอน อีก 1 จุดกางเต็นท์ยอดฮิตสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ ไปสัมผัสธรรมชาติใกล้ๆกรุง นอกจากจะมีลานกางเต็นท์บรรยากาศชีวิวสวยแล้ว ที่ ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เจ็ดคตโป่งก้อนเส้า กิจกรรมอื่นๆให้ทำ อาทิตย์เดินป่าดูนกตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ หรือจะเดินไปเที่ยวน้ำตกที่มีให้เลือกถึง 5 แห่ง ระหว่างทางเรายังจะได้สัมผัสกับธรรมชาติสวยๆ ทั้งโป่งผีเสื้อนับร้อยตัว หรือเห็ดแชมเปญสีสวย ที่จะออกดอกให้ชมในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ไปจนถึงเดือนตุลาคม อีกด้วย ใครอยากสัมผัสบรรยากาศความสดชื่น ขจีของ ภูเขาและน้ำตก แบบทูอินวัน มาเช็คอินที่นี่กันได้เลยค่ะ เขาช่องลม ดินแดนแห่งความ สถานที่ท่องเที่ยว Landmark ในจังหวัดนครนายก ซึ่งการจะมาเที่ยวที่นี่ จะต้องนั่งเรือเข้ามาเท่านั้นค่ะ จึงเหมาะสำหรับคนที่ชอบการผจญภัย และหลงใหลธรรมชาติสุดๆ ด้วยลำธารที่ทอดยาว ผ่านระหว่างช่องเขาเขียวขจี ท่ามกลางโขดหินน้อยใหญ่ ที่ปกคลุมไปด้วยพืชพรรณไม้ตามธรรมชาติ จุดปรากฏเป็นภาพที่งดงามแปลกตา จนได้รับการขนานนามว่า greenland แห่งเมืองไทยกันเลยทีเดียว ซึ่งหากใครมาเที่ยวในฤดูฝน เรายังมีโอกาสได้ลุ้นชมหมอก ที่ ปกคลุม ยอดเขาอีกด้วยค่ะ ด้วยธรรมชาติสวยๆที่ยังคงสมบูรณ์ ทั้งผืนป่า ขจีที่โอบล้อมไปด้วยเทือกเขาสูงพาโนรามา และไฮไลท์อย่างจุดชมวิวพะเนินทุ่ง ซึ่งเป็นจุดชมทะเลหมอกยามเช้า แล้วพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่งดงามได้แบบ 2 in 1 นอกจากนี้หากใครพักค้างแรมด้านบนเขาพะเนินทุ่ง ตอนกลางคืนเรายังสามารถชมดาว ได้จากเต็นท์ที่พักแรม ถ้าโชค ถ่ายภาพทางช้างเผือกสวยๆ เป็นที่ระลึกกันอีกด้วยค่ะ จุดเช็คอินราชบุรีสุดฮิตที่วิวสวยไม่แพ้ต่างประเทศเลยทีเดียว กลับมหาดไทยธารา ที่นี่มีบ้านพักวิวหลักล้าน ให้บริการหลายรูปแบบ ทำห้องพักบนอาคาร บ้านเป็นหลังและลานกางเต็นท์ ที่มองเห็นวิว ข่าวและอ่างเก็บน้ำห้วยท่าเคย ที่เราสามารถเดินลงไปถ่ายรูปสวยๆ พกเก้าอี้ไปนั่งเล่นริมน้ำ หรือจะตกปลาพายเรือคายัคเล่นชิวๆก็ยังได้ เหมาะกับสายแคมป์ปิ้งที่มอง สถานที่พักผ่อนชิวๆ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯในวันหยุด ใครจะเชื่อว่าระยองจะมีจุดเช็คอินบรรยากาศ พร้อมหมอกตอนเช้าให้เราได้ชม ท่ามกลางวิวภูเขา ทะเลสาบล้อมรอบ สุดฟินไม่แพ้ภาคเหนือแบบนี้ มาเช็คอินที่นี่เลยค่ะ กลับบ้านเราริมเขื่อน สวนคุณ ที่พักระยองที่มาพร้อมกับวิวหลักล้าน ที่นี่เป็นลานกางเต็นท์เปิดใหม่วิวสุดปัง ตั้งอยู่อ่างเก็บน้ำคลองละ ชิวเหมาะกับการแค้มปิ้งริมน้ำสุดๆ ตอนกลางคืนนอนดูดาวกันแบบฟินๆ ส่วนตอนเช้าก็ตื่นมาดูพระอาทิตย์ ขึ้นท่ามกลางสายหมอก บอกเลยว่าฟินมาก มาถึงจุดกางเต็นท์ Camping อีกแห่งที่กำลังมาแรงในตอนนี้ หุบเสือ จุดกางเต็นท์สุดชิลล์วิวหลักล้าน ท่ามกลางธรรมชาติ ตั้งอยู่ในพื้นที่รอยต่อบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี และริมอ่างเก็บน้ำลำตะเพิน ด่านช้างจังหวัดสุพรรณบุรี ที่มีวิวสวยๆน่าทึ่งสุดๆ ล้อมรอบด้วย ข่าวและผืนน้ำแบบพาโนรามา ถ้าหากมาตรงกับช่วงที่ท้องฟ้าเปิด เรายังจะได้แค้มปิ้งนอนชมดาว ทางช้างเผือกสุดฟิน เหมือนเราอยู่ภาคเหนือกันเลยทีเดียวค่ะ นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวก นักท่องเที่ยว ทั้งห้องน้ำจุดพ่วงไฟฟ้า ร้านขาย ของชำ และร้านอาหารตามสั่ง เพราะสามารถทำกิจกรรมอย่างการ ตกปลาได้ด้วย เหมาะกับ พักผ่อนในวันหยุด กับคนรู้ใจ หรือครอบครัว สุดไปเลยค่ะ ขยับมาโซนจังหวัดสุพรรณบุรีกันบ้าง กับอ่างเก็บน้ำ เขาวง ที่มีธรรมชาติสวยงามจนได้รับสมญานามว่า เป็นปางอุ๋งสุพรรณบุรี ตั้งอยู่ในตำบลพุน้ำร้อน อำเภอ ด่านช้างจังหวัดสุพรรณบุรี จากกรุงเทพฯใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้น เราก็จะได้สัมผัส กับบรรยากาศของขุนเขา พี่ล้อมรอบอ่างเก็บน้ำ พี่แลดูคล้ายทะเลสาบย่อมๆ ที่นี่ไม่มีทั้งสัญญาณมือถือและไม่มีไฟฟ้า เหมาะกับคนที่ต้องการตัดโลก Social ที่วุ่นวาย มาพักกายพักใจท่ามกลางธรรมชาติ ซึ่งที่พักของที่นี่มีให้เลือกทั้งแบบแพริมน้ำ โดยแบ่งเป็นภายหลัง พักได้ 2 คน ราคา 400 บาท นับถอยหลังใหญ่ พักได้ 7 ราคา 1,000 บาท พร้อมเครื่องนอนหมอนที่นอนผ้าห่มและมุ้ง สำหรับใครที่เป็นสายกางเต้นท์อย่างเรา ก็สามารถนำเต็นท์มากางที่นี่ได้ค่ะ เสียค่าสถานที่ 100 บาท ส่วนใครที่ไม่ได้เอาเต็นท์มา สามารถมาเช่าได้ในราคา 170 บาทเท่านั้น ผาเก็บตะวัน ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติทับลาน รอยต่อระหว่างอำเภอวังน้ำเขียวโคราช กับปราจีนบุรี เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมากางเต้นท์ชมพระอาทิตย์ตกกันค่ะ ซึ่งที่นี่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ของเทือกเขาเขียวขจีได้แบบพาโนรามา ช่วงเดือนกันยายน ของทุกปีจะเป็นช่วงที่ต้นล ออกดอกสะพรั่ง ซึ่งมีให้ แค่เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น นอกจากจะได้มาตั้งแคมป์ปิกนิกท่ามกลางธรรมชาติแล้ว ที่ผาเก็บตะวัน ยังมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทำ อย่างการปลูกต้นไม้โดยใช้ สติ๊กยิงเมล็ดพันธุ์ลงไปใน ทั้งสนุกและยังช่วยอนุรักษ์ธรรมชาติไปในตัวอีกด้วยค่ะ ปิดท้ายกันที่อ่างเก็บน้ำห้วยตาโบ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของหน่วยพิ อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วที่ 2 บ้านอ่างอำเภอ จังหวัดจันทบุรี สถานที่ที่ได้สมญาว่าเป็นปางอุ๋งเมืองจันทร์ บรรยากาศและ Feeling ของที่นี่ก็ไม่แพ้กับปาง ที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนเลยทีเดียวค่ะ เพราะมีลานกางเต็นท์บรรยากาศดีริมน้ำ ท่ามกลางขุนเขาเขียวขจี แล้วยัง สายหมอกจางๆยามเช้า นอกจากนี้ยังมีแพไม้ไผ่ ที่เราไปถ่ายรูปกลางน้ำได้ด้วย ที่สำคัญเราสามารถมากางเต็นท์พักแรม ในบริเวณ เก็บน้ำห้วยตาโบได้ฟรี เพราะไม่มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำ ที่ สามารถเข้าใช้ได้ฟรี โดยไม่เสียค่า ทั้งสิ้นค่ะ เรียกว่าเป็นจุดเช็คอินราคาหลักสูตร แต่บิว แท้จริง ไม่ต้องไปไกลถึงแม่ฮ่องสอนก็ฟินได้ เป็นยังไงกันบ้างครับกับพิกัดดีๆที่เราหยิบมาแนะนำกัน ถ้าชอบถ้าถูกใจก็อย่าลืมกด Subscribe Channel และติดตามแฟนเพจชูไปไหนไว้ด้วยนะครับ จะได้ไม่พลาดเรื่องราวท่องเที่ยวอัพเดทใหม่จากพวกเรา