เชียงแสน นครแห่งตำนานเป็นที่รู้จักในวงกว้างว่าเป็นหนึ่งในจุดหมายท่องเที่ยวที่น่าสนใจของประเทศไทย มันไม่เพียงแต่เป็นที่ตั้งของการแพร่ระบาดของวิริยะศาสตร์และวัฒนธรรมอันน่าทึ่งแต่ยังเป็นที่ตั้งของธรรมชาติที่งดงามและพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจที่คุณไม่ควรพลาดเลย ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจเชียงแสน นครแห่งตำนานและเรียกขานสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณควรเยือนในการเดินทางของคุณในประเทศไทย.
1. ประวัติเชียงแสน
เชียงแสนคือเมืองหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและน่าสนใจ มันเป็นจุดที่ผ่านการพัฒนาอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน แต่ก็ยังคงความเป็นเมืองริมน้ำแม่น้ำแควที่น่าสนใจมากมาย. คุณสามารถเริ่มการท่องเที่ยวของคุณโดยการสำรวจเมืองเก่าที่มีอายุมากกว่า 700 ปี ซึ่งยังคงมีโครงสร้างและสถาปัตยกรรมที่คุณสามารถร่วมสนุกกัน.
2. วัฒนธรรมและงานศิลปะ
เชียงแสนเป็นสถานที่ที่มีวัฒนธรรมและงานศิลปะที่น่าทึ่ง คุณสามารถชมการแสดงศิลปะและการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจจากชุดการแสดงระดับโลก ไม่ว่าคุณจะสนใจการศึกษาวัฒนธรรมของชาวเขาหรือการแสดงศิลปะท้องถิ่น ที่นี่คุณจะได้พบกับทั้งหมด.
3. สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำ
3.1 วัดพระธาตุดอยสุเทพ
วัดพระธาตุดอยสุเทพเป็นหนึ่งในวัดที่สำคัญที่สุดในภาคเหนือของประเทศไทย มันมีหอมหาพระชนม์ที่สวยงามและวิวที่น่าทึ่งที่จะช่วยให้คุณรู้สึกอิสระ.
3.2 สวนสันติสุข
สวนสันติสุขเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว มีพื้นที่กว้างขวางที่คุณสามารถร่วมกิจกรรมกับครอบครัวหรือเพื่อน.
3.3 พิพิธภัณฑ์เชียงแสน
หากคุณสนใจในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเชียงแสน คุณควรมาเยือนพิพิธภัณฑ์ที่นี่ มีนิทรรศการและสิ่งที่น่าสนใจมากมาย.
4. กิจกรรมที่สนุกสำหรับครอบครัว
4.1 การเดินป่า
เชียงแสนมีเส้นทางเดินป่าที่น่าสนใจ คุณสามารถเดินเล่นและสนุกกับธรรมชาติอันงดงาม.
4.2 การขี่ม้า
การขี่ม้าเป็นกิจกรรมที่น่าสนุกสำหรับครอบครัว คุณสามารถสนุกกับการขี่ม้าในธรรมชาติอันงดงาม.
5. อาหารและขนมอร่อย
เชียงแสนมีอาหารและขนมอร่อยมากมายที่คุณควรลอง อาหารท้องถิ่นและอาหารไทยคลาสสิคจะทำให้คุณประทับใจ.
6. สรุป
เชียงแสน นครแห่งตำนานเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณไม่ควรพลาดในการเยือนประเทศไทย มันมีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่น่าทึ่ง สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และกิจกรรมสำหรับครอบครัว อย่าลืมสนุกกับอาหารและขนมอร่อยท้องถิ่นด้วย!
คำถามที่พบบ่อย
1. เมื่อเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเยือนเชียงแสนคือเมื่อใด?
เวลาที่เหมาะสมสำหรับการเยือนเชียงแสนคือต้นฤดูหนาวหรือปลายฤดูหนาว เพื่อเพลิดเพลินกับอากาศเย็นสบายและวิวที่สวยงาม.
2. วิวที่น่าทึ่งที่เชียงแสนคืออะไร?
วิวที่น่าทึ่งที่เชียงแสนรวมถึงวิวที่ยอดเยี่ยมของเทือกเขาและทิวเขาที่ร่วมกันสร้างภูมิทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ.
3. มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับเด็กไหม?
ใช่ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับครอบครัวและเด็ก อาทิเช่น สวนสันติสุขและการขี่ม้า.
4. ที่ตั้งของเชียงแสนอยู่ที่ไหนในประเทศไทย?
เชียงแสนตั้งอยู่ในภาคเหนือของประเทศไทย.
5. มีร้านอาหารแนะนำในเชียงแสนอะไรบ้าง?
บางร้านอาหารที่ควรลองในเชียงแสนรวมถึงร้านอาหารท้องถิ่นและร้านอาหารไทยคลาสสิค อย่าลืมลิ้มลองขนมอร่อยด้วย!
ในท้ายบทความนี้ พวกเราหวังว่าคุณจะได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับการเยือนเชียงแสน นครแห่งตำนาน และคุณจะสนุกกับการสำรวจสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเมืองนี้. หากคุณกำลังวางแผนการเดินทางไปเชียงแสน อย่าลืมเช็คเอาท์ข้อความนี้: “Access Now: https://bit.ly/J_Umma” สำหรับข้อเสนอพิเศษ!
เชียงแสน นครแห่งตำนาน : Spirit of Asia (3 มี.ค. 62) [VIDEO]
“แม้วิทยาการและความรู้ทางโบราณคดีจะพิสูจน์ได้แล้วว่า ซากเมืองโบราณและหลักฐานที่ชาวบ้านเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว เชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของเมืองสุวรรณโคมคำในตำนานนั้น แท้จริงแล้วเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเมืองโบราณเชียงแสนที่อยู่อีกฝั่งของลำน้ำโขง แต่กระนั้นก็ยังไม่มีใครตอบได้ว่า เมืองสุวรรณโคมคำแห่งตำนานการเกิดเมืองเชียงนั้นมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ แต่ก็นับได้ว่าเมืองสุวรรณโคมคำที่พวกเราเจอในฝั่งลาวนั้น ได้ปลุกเร้าให้พวกเราออกเดินทางจนนำไปสู่เรื่องราวของนครในตำนานอีกแห่งหนึ่ง
สัปดาห์นี้ Spirit of Asia จะพาคุณเดินทางไปพบกับเรื่องราวแห่งตำนานของอาณาจักรโบราณก่อนจะเป็นล้านนาที่เรารู้จัก ซึ่งเรานำมาร้อยเรียงใหม่ ให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่และความสำคัญของอาณาจักรโยนกเชียงแสน ที่เกือบจะหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ไทย และพบกับเรื่องราวของชาวไทยวนที่หวนกลับมาพัฒนาบ้านเกิด และเฝ้าอนุรักษ์ความเป็นถิ่นฐานที่มีอดีตอันรุ่งเรืองของเมือง สถานที่ซึ่งเชื่อมโยงเราไปสู่มิติแห่งประวัติศาสตร์ของวัฒนธรรมล้านนาและชนชาติไท
ติดตามชมรายการ Spirit of Asia ตอน เชียงแสน นครแห่งตำนาน วันอาทิตย์ที่ 3 มี.ค. 62 เวลา 16.30 น. รับชมย้อนหลังทาง http://www.thaipbs.or.th/SpiritofAsia”
เนื้อหาของวิดีโอ เชียงแสน นครแห่งตำนาน : Spirit of Asia (3 มี.ค. 62)
ทุกวันนี้ ความเป็นมาของอาณาจักร 1 ยังคงถูกศึกษาจากไปลานเก่าๆ กาลเวลาที่ยาวนาน ได้สร้างตำนานอันทรงคุณค่า ตำนานแห่งการเกิดเมืองโบราณ อดีตศูนย์กลางการปกครองของดินแดนล้านนาทางภาคเหนือ วันนี้ Spirit Of Asia จะนำคุณไปพบกับเรื่องราวที่ถูกนำกลับมาร้อยเรียงใหม่ ให้เห็นความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรหนึ่งของไทย ซึ่งเกือบจะหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์ พิษจากสงคราม ทำให้เจ้าของถิ่นเดิมอย่างเช่นชาวไทยยวน จำต้องโยกย้ายไปตามดินแดนต่างๆ แต่ ก็ไม่ได้ทำให้เชียงแสนและความเป็นไทยยวนสิ้นสุดลงที่วันวาน พวกเขาบางส่วน ได้กลับมาพัฒนาบ้านเกิด และเฝ้าอนุรักษ์ความเป็นถิ่นฐานที่มีอดีตอันรุ่งเรืองของเมืองสถานที่ ซึ่งเชื่อมโยงเรา ไปสู่มิติแห่งประวัติศาสตร์ของวัฒนธรรมล้านนาและชนชาติไทย เชียงแสนมหานครแห่งตำนาน หลักฐานทางโบราณคดี พิภพริมฝั่งโขงเพียงไม่กี่ชิ้น ก็ทำคนทั่วทุกสารทิศหันมาสนใจหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ได้อย่างที่ไม่เคยเป็น ชาวบ้านหลายคนไม่รู้เลยว่า พระธาตุและพระพุทธรูป ที่พวกเขาคุ้นเคยเหล่านี้ มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากเพียงใด จนกระทั่งนักโบราณคดีทั้งไทยลาว ได้เดินทางมาตรวจสอบ ประกาศให้บริเวณนี้ เป็นสถานที่อนุรักษ์ และหวงห้ามเอาไว้เพื่อการศึกษาทางประวัติศาสตร์ สุวรรณภูมิคำ คือตำนานบทหนึ่ง ที่ยึดโยง ดินแดน 2 ฝั่งโขงแห่งนี้มาช้านาน เล่ากันว่า ดินแดนแถบนี้ เคยมีเมืองโบราณที่เจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่ 1,000 ปีก่อนตั้งอยู่ และสุวรรณภูมิคำ ก็คือชื่อของอาณาจักรนั้น ซึ่งเชื่อกันว่า น่าจะตั้งอยู่บนผืนดินกลางลำน้ำโขง ยามค่ำคืนชาวสุวรรณภูมิคำ จะประดับประดาบ้านเรือนด้วยโคมไฟแขวนอย่างวิจิตรงดงาม บางคนเชื่อว่าเป็นการบูชาพระพุทธเจ้า บ้านก็เชื่อว่าทำเพื่อบูชาพญานาค ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่ามันคือภาพสะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างวิถีชีวิตกับความเชื่อ ทางศาสนา หรืออีกด้านหนึ่งก็อาจจะเป็นการแสดงความเคารพในธรรมชาติของผู้คนในยุคนั้น แม้ปัจจุบัน จะไม่มีผืนแผ่นดินกลางลำน้ำโขงให้เห็น การที่ฝั่งประเทศลาวกลับมีเมืองโบราณเมืองหนึ่ง มีชื่อว่า สุวรรณหงส์ เช่นเดียวกัน จากหลักฐานทางโบราณคดี ที่ชาวบ้านช่วยกันงมขึ้นมาได้ สามารถพิสูจน์ได้ว่า ที่นี่ไม่ใช่เมืองสุวรรณภูมิค้ำในตำนาน และก็ยังไม่มีใครตอบได้ว่า เมืองสุวรรณภูมิคำในตำนานมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ แต่ก็นับได้ว่า เมืองสุวรรณภูมิคำที่พวกเราเจอในฝั่งลาว ได้ปลุกเร้าให้พวกเรา ออกเดินทาง จนนำไปสู่เรื่องราวของนครแห่งตำนาน ทะเลสาบเชียงแสนหรือที่ชาวบ้านรู้จักกัน ในชื่อ เวียงหนองหล่ม ตั้งอยู่ระหว่างอำเภอเชียงแสนและอำเภอแม่จันจังหวัดเชียงราย สันนิษฐานกันว่า อาจเป็นที่ตั้งของเมืองโบราณอีกเมืองหนึ่ง ที่ถูกบันทึกไว้ในพงศาวดารเหนือในตำนานได้กล่าวถึง เรื่องราวการสร้างเมืองใหม่ ฝนที่ราบเชียงแสนเอาไว้ว่า พญาสิงหนวัติ ได้รวบรวมเอาคนพื้นเมืองกลุ่มต่างๆ แล้วจัดตั้งเป็นอาณาจักร โยนกณัฐพันธ์ สิงหนคร ตำนานยังเล่าถึงพระเจ้าพรหมกุมาร วีรบุรุษ ที่ได้กอบกู้บ้านเมืองจากพวกขอม และช้างส่งคู่บารมีชื่อพานคำซึ่งยังคงถูกพูดถึงและถ่ายทอดออกมา ในรูปแบบของศิลป ร่วมกับ วัฒนธรรมล้านนาย่างกลมกลืน ผ่านการประดับประดาวัดและสถานที่สำคัญของเมืองเชียงแสนมาทุกยุคทุกสมัย พื้นที่นี้ เป็นพื้นที่ที่ พยายาม ตอกย้ำหรือว่าเชื่อมโยงถึงความสัมพันธ์อันเก่าแก่ ก็คือพยายามโยงไปถึงยกโยนกพระนครโยนนนทบุรี ที่ยุคเก่าเลยนะ ตำนานยุคเก่าที่เป็นลายลักษณ์อักษรเนี่ย ก็จะกล่าว ช้าง กษัตริย์ ในอดีต สามารถ ในแม่น้ำโขงแล้วก็กลายเป็นช้างขึ้นมาแล้วก็กลายเป็นช้างคู่บาร สำคัญนะครับ งั้นตัวนี้น่าจะเกิดการรับรู้แล้วก็ ผลิตซ้ำสืบๆกันมาครับ ดังนั้นเมื่อมีการสร้าง สถานที่ตรงนี้ไปสะดือเมือง งั้นความเป็นเก่าความเก่าแก่ที่ พยายามอ้างให้เห็นความ สืบเนื่อง ก็เอาตำนาน ตัวนี้มา กับสถานที่ให้เกิดเป็นรูปประธรรมผ่าน สัญลักษณ์ต่างๆก็คือ รูปปั้น ที่เป็นรูปของ วีรบุ อดีตกษัตริย์เนี่ยกำลัง จับงูแล้วก็กำลังกายเป็นช้างอย่างที่เราเห็น แม้กระท LINE ประดับตรงสันของ ที่เป็น เมืองหรือสะดือเมืองตอนนี้เนี่ย ก็จะเห็นว่า โดยขนบเดิมเนี่ยจะเป็นรูปเมื่อก่อนใครนาค แต่ตัวนี้เนี่ยก็พยายามทำให้เอกลักษณ์โดยการปรับ นาคน่ะให้เป็น ช้างงู รวมเพลงเป็นมา ขายช้างงูออก งั้นตัวนี้ก็ ทำให้เห็นการผสมผส ตำนานความเชื่อ แล้วก็โยงเข้ากับประวัติศาสตร์ ในการรับรู้ของท้องถิ่น ออกมาผ่าน งานศิลปกรรม ที่เป็นรูปประธรรม ทั้งรูปปั้นช้างงูตัวนี้แล้วก็ ช้างงูที่ เป็นมาก่อนใครช้างงู เรื่องราวของเมืองบริเวณที่ราบเชียงแสน ที่ถูกทำลายและสร้างขึ้นใหม่หลายครั้ง ได้ดำเนินมายาวนานหลายพันปีนับตั้งแต่ตำนานเมืองสุวรรณโคมคำ จนถึงยุคของพญาแสนภู กษัตริย์องค์ที่ 3 ของราชวงศ์มังราย ที่ขึ้นครองอาณาจักรล้านนา กล่าวได้ว่า เชียงแสนยุคนี้ มีความรุ่งเรืองมากที่สุด เพราะพญาแสนภู มีพระราชประสงค์ ให้สร้างบริเวณนี้ขึ้น เป็นเมืองหิรัญนครใช้บุรีศรีเชียงแสน ด้วยจุดมุ่งหมายที่ให้เป็นเมืองหน้าด่านทางการค้า และเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรล้านนาแห่งใหม่ เห็นได้จากความร่ำรวยทางวัฒนธรรมในเขตเวียงเชียงแสน ที่เต็มไปด้วยวัดวาอารามและ โบราณสถานที่สำคัญมากกว่า 70 แห่ง นักวิชาการเนี่ย ก็เชื่อว่าตรงนี้ ที่พญาแสนภู สร้างตั้งแต่สมัยที่มาสร้างเชียงแสนในปี 1871 ขาดในช่วงนั้น แล้วหลักฐานในทางสถาปัตยกรรมและศิลปกรรม ก็ยืนยันเชื่อมโยงไปถึงยุคต้นๆของล้านนาด้วย ที่รับมาผ่าน หริภุญชัย ซื้อไปแว่นแคว้นในลุ่มแม่น้ำปิง สิ่งหนึ่งที่ปรากฏ ก็คือสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมก็คือเป็นเจดีย์ทรงปราสาท 5 ยอด ซึ่งเจดีย์ลักษณะนี้เนี่ย เรื่องยาวไปถึง ที่ผู้การ ที่ผู้การก็มีลักษณะ ก็เลยมีการ เชื่อมโยงว่าเจดีย์ที่ป่าสัก รับอิทธิพลมาจาก หริภุญชัยที่ลำพูนแล้วก็หริภุญชัยที่ลำพูน รับมาจากที่ผู้การ ทำไมเราถึงไม่เจออะไรเลย ที่เรายังไม่เจอในการขุดค้น จากที่ผม พยายามติดตามอ่านสำรวจ รายงานการสืบค้นของ ศิวกรนะครับ สันนิษฐานกันว่าเดิมเนี่ยบริเวณพื้นที่นี้ เป็นพื้นที่ที่ ยังไม่ได้รับ ถือว่าศาสนาเข้ามา ร้านการ ของคนยุคนั้นเนี่ยจึงเป็นลักษณะ ศาสนา ธรรมชาติ ดั้งเดิม ร้านการนับถือศาสนาแบบผีหรือวิญญาณดั้งเดิม จึงไปลักษณะของการสร้าง สถานที่เคารพแบบไม่ถาวร ถ้าเราสังเกตเนี่ย ก็จะสร้างเป็น ไม้ไผ่บ้าน ทราบเป็นกระต๊อบเล็กๆเป็น เป็น หรือไม่ก็อาจจะใช้ไม้ เนื้อแข็งมาแล้วมาสร้างแต่ว่าเราจะไม่เจอการสร้าง ทำพิธีกรรมด้วยอิฐด้วยศิลาแลง น่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ยุคนั้นน่ะ เราไม่ สถาปัตยกรรมหรืองาน ที่มันถาวรนะครับ งาน แม้ว่าในปัจจุบัน อาณาจักรโยนกเชียงแสน จะล่มสลายไปแล้ว นับตั้งแต่รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เขาล้อมและเผาทำลายบ้านเมือง เพื่อไม่ให้ไปเป็นที่มั่นของข้าศึกพม่า ชาวไทยยวนกลุ่มชาติพันธุ์หลักในเชียงแสนก็ได้อพยพย้ายถิ่นฐาน อยู่ตามแว่นแคว้นต่างๆ แต่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน เชียงแสนที่มีสามเหลี่ยมทองคำ ก็ยังคงเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญด้านเศรษฐกิจการค้า และการคมนาคมเช่นเดิมจึงไม่แปลกที่เมืองโบราณแห่งนี้ จะสามารถดึงดูดผู้คนให้กลับมาตั้งรกรากได้เสมอ เช่นเดียวกับคุณครูปรเมศ คุณครูประจำโรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม ที่ย้ายจากบ้านเกิดมาตั้งรกรากใหม่ที่เชียงแสน ตามโอกาสทำ และด้วยความหลงใหลนี่เสียงดนตรีล้านนา คุณครูปรเม จึงหัดเล่นเครื่องดนตรีพื้นเมือง และแบ่งเวลาส่วนหนึ่งให้กับชมรมดนตรีในโรงเรียนที่เขาก่อตั้งขึ้น พื้นเพเดิมเนี่ยผมเป็นคนสุโขทัยครับ รับผมมาบรรจุเป็นครูที่นี่เมื่อ 2533 ตอนแรกที่มาเนี่ย ผมหันคนเฒ่าเป กดเข้าไปสอนละอ่อนในโรงเรียน ฟังแล้ว เกิดความสนใจ ก็เลยไปนั่งดู ไปนั่งเล่น หัดเล่นตัวให้เฮาก็หยิบซึ้ง เพราะว่า จริงๆแล้วผม ผมอยู่วัด ผมฟังเพลงพวกนี้มาก่อนละ มันอยู่ใน มันอยู่ในสมอง ขอฟังปุ๊บ เขาน่าจะเล่นได้นะ ก็เลยสนใจ หยิบเครื่องเล่น เครื่องเล่นตัวเองคนเฒ่า สอนเปิ้ลก็สอนด้วย เอากันเล่นไปด้วย คือปีเดียวอ่ะผมก็เป็นเลยเนื่องจากว่า เอาสำเพ็งได้ จริงๆแล้วผมสอนภาษาอังกฤษ สอนภาษาอังกฤษ แปลว่า เฮาก็มาคิดว่าเออถ้าเฮาสอนภาษาอังกฤษ แล้วเราสามารถเผยแพร่วัฒนธรรมไทย ชาวต่างชาติ มันจะดีหมอกใด ผมก็เลยสนใจแล้วเล่นอย่างจริงๆจังๆ เล่นจากเครื่องหนึ่งคือ จับซึ้งก็ไปสะล้อจับสะล้อกลับไปขลุ่ย แล้วกลับไปกองไปชิงทรัพย์ทุกอย่าง เขาเล่นได้หมดเลย แต่จริงๆแล้วเฮาบ่ได้ไปเรียนที่ไหน ครูพักลักจำ พอคนเฒ่าเล่น สนใจเฮาก็หยิบไปเลย เล่นไปเล่นมาก็กลายเป็นว่าเออ นักเรียนได้ พ่อสอนนักเรียนได้ จัดตั้งเป็นชมรมขึ้นมา ชมรมดนตรีพื้นเมือง โรงเรียนเชียงแสนวิทยาคม ไม่ไกลจากโรงเรียนมากนัก มีดบ้านโบราณของคุณครูสม สุขสุวรรณ ลูกหลานชาวไทยที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในเมืองเชียงแสน ที่พยายามจะรักษาภูมิปัญญาของชาวไทยยวนเอาไว้ โดยใช้ทุนทรัพย์ส่วนตัว ต่อเติมบ้านไม้หลังเก่า ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ดนตรี บ้านไร้ซึ่ง เพราะอยากจะสืบสานภูมิปัญญาของชาวไทยยวนให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา บ้านไม้เรือนไทยของคุณครูสมนึกหลังนี้ คลื่นแหล่ง เครื่องดนตรีพื้นเมือง ที่หลงเหลืออยู่ไม่กี่แห่งในเชียงแสน ครูสมนึกเล่าว่าบ้านไร้ซึ่ง ยังคงเก็บรักษาเครื่องดนตรีโบราณตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตาทวดเอาไว้ อีกทั้งยังมีเครื่องดนตรีทั้งเก่าใหม่เอาไว้มากกว่า 50 ชิ้น โดยเฉพาะสะล้อและสื่อ เครื่องดนตรีล้านนาโบราณ ที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทยญวน ที่ได้ส่งต่อไปถึงอาณาจักรล้านนา บ้านไร่ซึ้งๆ มาเผื่อ มีประมาณ 53 เครื่องดนตรีแปลงบ้านหลังนี้ก็ คุ้นๆมากอ่ะ ดูเขาพูดว่า มันเป็น หัวหน้ามันเป็น อยากจะหื้อเปลี่ยนแรงศึกษาของ คนทั่วไป เอากับน้องอ่อนตัวเอง บอกไผ ซึมสารเหล้ากับมาพอเลิกใครหัน หน้ากากของที่ห้องเนี่ยสวย สะสม ถ่ายทอดวิชา ก็มี ก็ส่วนมากก็แต่ว่าการแปลงนี้ยังบ่ได้ ก็แนะนำ เป็นบางคนไป เขาจะมาเรียนอยู่บ้านไม่มี ละครมาตั้งแต่ ห้วยเกี๋ยง มีนักศึกษาฝึกสอน หลวงพ่อสอนการรีดซึม หลวงพ่อแก้วมาไว สวัสดีครับพ่อคูณผมวันนี้ผมตั้งวงแล้วหนา ในความรู้จากพวกคุณสอนดีซึ้งผม ผมก็ไปพัฒนาตัวเก่าคืน ตั้ง และเพราะชาวไทยยวนมีความผูกพันกับวัด ร่องรอยและหลักฐานของชาวไทยยวนเชียงแสน ถึงยังคงปรากฏให้เห็นตามวัดต่างๆในเขตเหวี่ยง ที่วัดพระเจ้าล้านทอง ยังคงมีร่องรอยของตัวอักษรล้านนาปรากฏอยู่ในใบลานภูมิปัญญาหลายอย่างที่ ถูกบันทึกไว้ในใบลานแต่การขาดแคลนผู้รู้ ทำให้หลายๆคนในเชียงแสนกำลังเป็นห่วงว่าอัตลักษณ์ด้านภาษาของชาวไทยยวน กำลังจะเลือนหายไปเราได้พบกับพระครูสุวรรณวิสุท ที่คุณและพ่ออุ๊ยมานิตย์ ซึ่งเป็นชาวเชียงแสนเพียงไม่กี่คนที่ยังคงเขียนและอ่านใบลานในภาษาล้านนา พระครูและเพาะอุ๊ยเล่าให้เราฟังว่าการเขียนหรือ อักษรธรรมล้านนาที่กรมโค้งไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดการจานอักษรแต่ละตัว จึงต้องใช้ทั้งความอดทนและเพียรพยายามอักษรธรรมบนใบลาเหล่า จึงเต็มไปด้วยคุณค่าและภูมิปัญญาของคนในอดีต เธอคือภาษาล้านนาเนี่ยมันๆ สันนิษฐานว่าจะมา ดั้งเดิม ก่อนก่อนที่จะมีภาษาไทย ดูคลิปใน เมื่อก่อนคนคนโยนกเนี่ย มันจะมี ยังบ่มีภาษาไทยใจ เขาจะใช้ภาษาล้านนาเป็น คนเกิดมา ก็ต้องจ๋านเลย เขาเรียก ไม่ได้ ไม่ได้บอกว่าเขียน จะเป็น ทำใส่ในใบลานไว้ สวัสดีคน วันที่เท่าไหร่ เดือนอะไรอะไร จะต้องเขียน เป็นภาษา ล้านนาหมด ที่นี่ บาปไม่ใช่เฉพาะ ที่จะเป็นคัมภีร์ ปี่พระเทศน์อย่างเดียว มันจะเขียนว่าจะเป็น นึ่งจะเป็นกฎหมาย สมัยก่อน จะเขียนเป็นกฎหมาย จะเขียนเป็น ทุกอย่างอ่ะทุกอย่างที่ที่ทาง คือจะใช่ไอ้ตัวอักษรล้านนาหมดเลย คืนนี้คือดังเดิม กลุ่มทอผ้าพื้นเมือง บ้านสบคำ วัดพระธาตุผาเงา ก็เป็นอีกหนึ่งที่ยังคงดำเนินการสืบสานผ้าทอยกมุกลวดลายเก่าแก่ ที่พวกเขาคัดลอกมาจากกลุ่มไทยวนทางสระบุรีไว้อย่างเหนียวแน่น นอกจากภูมิปัญญาด้านดนตรีและภาษาแล้ว ผ้าซิ่นก็นับได้ว่าเป็นหนึ่งภูมิปัญญา ที่แสดงถึงอัตลักษณ์อันไม่เหมือนใครของชาวไทยญวนปัจจุบันชาวบ้าน บ้านที่นี่ สามารถสร้างรายได้จากการทอผ้าได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ที่น่ายินดีกว่านั้น คือแม่ๆเหล่านี้ ได้ทำหน้าที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญในการอนุ งานหัตถกรรมโบราณ ที่เคยหายไปจากชุมชน ต้องขอบคุณวิทยาการในปัจจุบัน ที่ทำให้นักโบราณคดี สามารถปะติดปะต่อเรื่องราวที่ตกหล่นเหล่านั้นได้ แล้วก็น่าดีใจที่คนพลัดถิ่นจำนวนไม่น้อย สามารถสืบหารากเหง้าความเป็นไทยญวนของตัวเองจนเจอ แล้วกลับมาตั้งรกรากอีกครั้ง ในถิ่นฐานเดิมของบรรพบุ ปัจจุบันพวกเขาที่กระจัดกระจายอาศัยอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ของอำเภอเชียงแสน ก็ได้รวมตัวกันจัดตั้งชมรมไทยยนต์เชียงแสน ร่วมกับกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆในชุมชน เพื่อนดำเนินตามปณิธานร่วมกันใน อนุรักษ์ และฟื้นคืนคุณค่าของท้องถิ่น ให้กลับมาสมบูรณ์ดั่งเดิม ที่เรามาอยู่ด้วยเราได้ สร้างความเป็น เป็นหนึ่งเดียวของชาวเชียงแสน อย่างน้อย เหมือนกับเป็น เป็นสายใยที่ยังหลงเหลือเหลืออยู่ เพื่อที่จะให้คนไทยยวนต่าง ต่างถิ่น เมื่อกลับบ้านเชียงแสนแล้วก็ยังมีความรู้สึกว่าเออยังมีสถานที่หรือว่ายังมีพื้นที่ ต้องรับเขาอยู่ ยังต้อนรับเขาอยู่ เขาจากไปแต่ว่า รุ่นรุ่นนั้นก็จะไม่มีแล้วล่ะแต่ว่ารุ่นลูกรุ่นหลานที่กลับมาเชียง อย่างน้อยๆก็ มีสถานที่ อย่างน้อยก็ที่บ้านเนี่ย ที่ที่ที่ที่ที่ เกาะยินดี ก็ร่วม จัดงานต้อนรับ พี่น้องไทยยวนก็ ของผมก็ได้มีส่วนเข้าไป ร่วมกิจกรรมตรงนั้นด้วย ภาคภูมิใจว่า อย่างน้อยก็เป็นเจ้าบ้าน ชาวบ้าน ถึงเราจะไม่ใช่คนไทยญวน อย่างเขาแต่เราก็ภาคภูมิใจที่อย่างน้อย เรามาอาศัยพื้นที่ เราก็มีความรู้สึกเรา เรารับพื้นที่นี้ เราได้ ใช้พื้นที่นี้ทำมาหากิน แล้วก็มี Call Center เรามีความสุข สากลรุ่นก่อน รถจากไปเขาก็คงจะรู้สึกเสียดายอ่ะเสียดายแผ่นดินที่เขาอยู่อย่าง อย่างร่ำรวยอย่างอบ อยากมีความสุข ต้องจากไป ซึ้งๆสิ่งเหล่านี้ก็คงถ่ายทอดไป ไพรวัลย์รุ่นหลังๆ ว่าครั้งหนึ่งนะเราเคยอยู่เชียงแสนนู้นนะลูกนะ เขาก็คง อยากจะเห็นน่ะอยากจะกลับมาสำคัญว่า ที่ที่ พ่อกับแม่ปู่ย่าตายายเคยอยู่ ซึ่งแต่แต่ถ้ามาตอนนี้ก็คงไม่หลงเหลือสิ่งที่เขา เพราะเขาอยากจะเจอแล้วก็คือจะเจอตึกรามบ้าน เจอร้าน จริงๆมันก็เป็นธรรมดาของทุกที่ แต่ว่าอย่างน้อย ที่ทำผมยังมีชีวิตอยู่ผมก็จะรักษาธรรมชาติ สภาพเดิมๆ เอาไว้ต้อนรับ นี่คือสิ่งเดียวที่คงจะทำได้ แม้วันนี้ อาณาจักรโยนกเชียงแสน จะเหลือเพียงแค่ซากอิฐ เพราะว่าสร้างอิฐทุกก้อน ติดก่อขึ้นเป็นเมือง ก็ยังคงเต็มไปด้วยบันทึกเรื่องราวจากอดีต ตราบเท่าที่ชาวเชียงแสน จะมีความภาคภูมิใจในชุมชน ในประวัติศาสตร์ และวิถีวัฒนธรรมของตนเอง เรื่องราวของชาวไทยยวนและมหานครแห่งตำนานแห่งนี้ ก็ยังมีไว้ให้ลูกหลานได้เล่าสืบต่อกันไปนานเท่านาน ในต่อหน้า เราจะออกเดินทาง อีกครั้ง ไปในดินแดนร่วมสมัยกับอาณาจักร โยนกเชียงแสนที่จังหวัด ลำพูน อาณาจักรโบราณทางตอนเหนืออีกแห่ง สถานที่แห่งตำนาน อารยธรรมที่รุ่งเรืองมาก่อนจะเป็นล้าน ที่เรารู้จัก